บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER) ส่งสัญญาณธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส ผลจากภาพรวมธุรกิจพัฒนาอสังหาฯและกำลังซื้อฟื้นตัวได้ดี ขณะที่แนวราบยังเติบโตต่อเนื่อง มองเป็นตลาดเรียลดีมานด์  ฟากบิ๊กบอส "สวิจักร์โลจายะ" คาดโค้งหลังยอดขายคึกคัก อานิสงส์โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยวแบรนด์  “ มายโฮม ” และโครงการแนวราบ-ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” มียอดขายรอโอนกว่า 1,000 ล้านบาท เตรียมพัฒนาที่ดิน เพื่อเปิดขายโครงการใหม่ในรูปแบบทาวน์โฮม – บ้านแฝด หวังผลักดันผลงานปีนี้โตต่อเนื่อง

นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ , โครงการแนวราบ-บ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม “มายโฮม ซิลเวอร์เลค”  และแบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และโครงการแนวราบ-ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกำลังซื้อผู้บริโภคมีการฟื้นตัวได้ดีขึ้น ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เกิดขึ้น น่าจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้คาดว่ายอดขายในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีการทยอยโอนจากโครงการแนวราบ - กลุ่มโครงการบ้านเดี่ยว ซิลเวอร์เลค วินด์ “SILVERLAKE VIND” ถนนสุวินทวงศ์  ภายใต้แบรนด์ “ มายโฮม ซิลเวอร์เลค” และแนวราบ - กลุ่มทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” - โครงการ รีซอร์ต้า สุขสวัสดิ์ 30-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งได้เปิดขายไปก่อนหน้าและได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก ส่งผลให้บริษัทฯมียอดขายรอโอนรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ได้ภายในช่วงครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้า

“ ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2566 น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น  ซึ่งโครงการแนวราบจะเป็นพระเอก สนับสนุนการเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานในอนาคต  ทั้งโครงการทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวล่าสุด เปิด PRE -SALE ” โครงการบ้านเดี่ยว ซิลเวอร์เลค วินด์ เริ่มเห็นกำลังซื้อของผู้บริโภคจากการเข้ามาชมโครงการ ทั้งเฟสแรกและเฟสสอง จากจำนวนทั้งหมด 177 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,500  ล้านบาท โดยทยอยปิดการขายไปได้เกินครึ่งของเฟส 1 และเฟส 2 แล้ว เพราะมีจุดเด่น เป็นโครงการบ้านเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ 60 ไร่ รูปแบบการใช้สอยที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและโครงการนี้จะสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการประมาณปี 2568 ” นายสวิจักร์ กล่าว

สำหรับช่วงที่เหลือในปีนี้บริษัทฯ จะเร่งการจัดโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น เพื่อการปิดการขาย รวมทั้งกระตุ้นยอดการโอนให้เร็วขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการพัฒนาที่ดินเพื่อการเปิดโครงการใหม่ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแนวราบ ทาวน์โฮม – บ้านแฝด ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนช่วงปลายปีนี้  และมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของรายได้ควบคู่กับรายรับจากโครงการแนวสูง และธุรกิจโรงพยาบาลในปัจจุบัน